FA Time กับ อ.ตี๋ ชวลิต ลีลาภรณ์, FChFP
Asset Allocation / Security Selection / Market Timing
จากบทความที่แล้ว เราได้กล่าวถึงการกำหนดเป้าหมายการลงทุน และขบวนการในการลงทุน ซึ่งมีขั้นตอนด้วยกัน 5 ขั้นตอน ดังนี้
- ค้นหาเป้าหมายการดำเนินชีวิต(จำเป็นอย่างมาก)
- กำหนดความสำคัญของแต่ละเป้าหมาย
- ทำแผนการเงิน เพื่อค้นหาคำตอบของการลงทุนที่เหมาะสมกับเรา
- วางแผนการลงทุน ผ่านการบริหารความเสี่ยง Asset Allocation / Security Selection / Market Timing
- ติดตามผล และปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน
สามารถย้อนกลับไปอ่านรายละเอียดกันได้นะครับ ในวันนี้เราจะมาลงรายละเอียดในข้อ 4 เรื่องการวางแผนการลงทุน ผ่านการบริหารความเสี่ยง Asset Allocation / Security Selection / Market Timing กันนะครับ ทั้ง 3 ปัจจัยข้างต้นนี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จในการลงทุนทั้งสิ้นครับ เรามาแยกดูทีละตัวนะครับ
- Asset Allocation คือ การจัดสรรสินทรัพย์ เป็นการแบ่งพอร์ตการลงทุนทั้งหมดออกเป็นส่วนๆ เพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์หลายๆประเภท เช่น หุ้น 40% , กองทุนรวมตราสารทุน 30%, ตราสารหนี้ 20% และตลาดเงิน 10% เป็นต้น โดยสาระสำคัญแล้ว Asset Allocation คือ วิธีการกระจายการลงทุนที่มีแบบแผนและมีประสิทธิผล จุดหมายสำคัญของการจัดสรรเงินลงทุนระหว่างสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้แก่ การสร้างผลตอบแทนให้สูงที่สุด ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และลดความเสี่ยงลงให้เหลือน้อยที่สุด ณ ระดับผลตอบแทนที่คาดหวังไว้
- Security Selection คือ การเลือกหลักทรัพย์รายตัวที่จะลงทุน ถ้าเป็นหุ้นก็คือการเลือกหุ้นรายตัว ถ้าเป็นกองทุนรวม ก็คือการเลือกกองที่จะลงทุน เป็นขบวนการที่ต่อเนื่องมาจากข้อ Asset Allocation เช่น ในสัดส่วน หุ้น 40% ก็จะเลือก หุ้น BDMS 10% , PTT 10% , SCC 10% และ INTUCH อีก 10% รวมทั้งสิ้นเป็น 40% เป็นต้น ส่วนกองทุนรวม 30% ก็ต้องเลือกว่าจะเป็นกองไหนบ้าง สัดส่วนเท่าไร ก็ว่ากัน ซึ่งขบวนการนี้ควรต้องศึกษาในเรื่องผลตอบแทนย้อนหลัง ผลตอบแทนคาดหวัง ความเสี่ยง อัตราผลตอบแทนต่อหน่วยความเสี่ยง ราคาที่เหมาะสม ค่า P/E Ratio ค่า Book Value และค่าอื่นๆ เพื่อหาสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับการลงทุน เข้ามาใน Port Folio ครับ ที่สำคัญคือควรต้องจำมาคำนวณรวมกันอีกครั้งครับว่า อัตราผลตอบแทนคาดหวังรวมเท่ากับเท่าไร? และความเสี่ยงรวมเท่ากับเท่าไร? ตรงนี้เกี่ยวกับการคำนวณค่อนข้างมาก อยากรู้ปรึกษาที่ปรึกษาด้านการลงทุนครับ
- Market Timing คือ เข้าออกในจังหวะเวลาที่เหมาะสม เช่น จากข้อ 2 เลือกที่จะลงทุนในหุ้น PTT 10% คำถามคือ ควรเข้าลงทุนตอนนี้เลยทั้ง 10% หรือ ค่อยๆทยอยซื้อ หรือ รอก่อน ยังไม่ถึงจังหวะซื้อ ใครๆก็อยากซื้อถูก แล้วไปขายตอนแพงๆ แต่ตรงนี้ยากครับ การวิเคราะห์ส่วนใหญ่เราจะใช้หลักการ Graph Technical Analysis เข้ามาช่วย และ/หรือการใช้ข่าวสาร และราคาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาร่วม
ในมุมตรงข้ามครับ ทุกวันนี้ นักลงทุนหลายคนไม่กำหนดเป้าหมาย ไม่ทำตามขั้นตอนการลงทุน ไม่สนใจวางแผน Asset Allocation มีเงินเท่าไรก็ใส่ลงไปหมด โดยใส่ไปในตลาดเพียงตลาดเดียว เช่น เล่นหุ้น 100% และในการลงทุน ก็สนใจแต่ Security Selection กับ Market Timing มันจะเกิดผลเสีย อย่างไรบ้าง?
- เมื่อท่านไม่ทราบเป้าหมายปลายทางที่แท้จริง การลงทุนก็ทำเพียงคาดหวังผมตอบแทนสูงๆ ทำให้ท่านเสี่ยงเกิดความจำเป็น
- หลายๆท่านอาจจะไม่ทราบว่าสถิติของความสำเร็จในการลงทุน มาจาก
91.5% มาจากการทำ Asset Allocation
4.6% มาจากการทำ Security Selection และ
1.8% มาจากการทำ Market Timing ครับ (อ้างอิง รูปด้านล่าง)

นั้นหมายความว่านักลงทุนท่านใดที่ไม่ใส่ใจขั้นตอนการลงทุน นักลงทุนท่านนั้นได้ทิ้งโอกาสประสบความสำเร็จจากการลงทุนไปถึง 91.5% ทิ้งไป และให้ความสนใจความสำเร็จจากเพียง 8.5% เท่านั้น
FA – Financial Advisor หรือ ที่ปรึกษาการเงิน ช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในชีวิต และสำเร็จในการลงทุนได้ครับ
บทความน่าอ่าน
https://www.one-asset.com/?p=2851
http://www.set.or.th/dat/vdoArticle/attachFile/IS109.pdf (Slide หน้า 48 เป็นต้นไป)
THAIFA “รวมพลัง สร้างอนาคต”