จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราใช้สินค้าผิดวัตถุประสงค์ของมัน  

By admin
In Finance
27/04/2023
1 min read

FA Time กับ อ.ตี๋ ชวลิต ลีลาภรณ์, FChFP   

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราใช้สินค้าผิดวัตถุประสงค์ของมัน  

เรื่องของคนที่เลือกใช้สินค้าผิดประเภท ผิดวัตถุประสงค์ จะเกิดอะไรขึ้น

วันนี้ต้องขอบคุณแนวความคิดดีๆ จากคุณมงคล ลุสัมฤทธิ์ หรือคุณหมง  พี่หมง  อาจารย์ของผม และของพวกเราหลายๆคน รวมถึงเป็นอาจารย์ประจำของหลักสูตร FChFP Module 1 และ Module Executive ของสมาคมฯเรา,  ผู้แต่งหนังสือหลายเล่ม, เจ้าของ Line Official “@WealthDesigner”  มาดูแนวคิดดีๆกันครับ

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราใช้สินค้าผิดวัตถุประสงค์ของมัน  ดังประโยคที่พี่หมงกล่าว 

“ผมเห็นหลายคนซื้อชาเขียว  โดยไม่ได้ต้องการดับกระหาย แต่ซื้อชาเขียวเพราะต้องการชิงโชครถเบ๊นซ์     ผมเห็นหลายคนที่ใส่หมวกตอนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่กันน็อค  แต่ใส่หมวกเพราะกันตำรวจ    คนชอบมองที่เปลือก ไม่ได้มองที่แก่น   เหมือนกับคนที่ซื้อ LTF RMF เลยครับ  ที่ไม่ได้มองที่แก่นหรือวัตถุประสงค์หลักของมัน แต่มองที่เปลือกคือต้องการลดหย่อนภาษีเท่านั้น เช่นเดียวกับกับการซื้อประกัน  คนซื้อประกันไม่ต้องการความคุ้มครอง แต่ต้องการเพียงภาษี”  

อ่านดูแล้วรู้สึกจั๊กจี้ครับ เพราะครั้งหนึ่งผมเองก็เป็นแบบนั้น  และคนส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแบบนั้น  เราลองตั้งคำถาม แล้วมาช่วยกันวิเคราะห์หาคำตอบกันนะครับ  

  1. เรารู้ไหมว่าสินค้าการเงินแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อหน้าที่อะไร?  แล้วทำไมเราถึงไม่เลือกใช้สินค้าการเงินตามวัตถุประสงค์ของแต่ละสินค้า?
  2. จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราเลือกใช้สินค้าอย่างผิดวัตถุประสงค์?

ตอบคำถามแรก  คนส่วนใหญ่ทราบครับว่าสินค้าการเงินแต่ละตัว ถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์ในด้านไหน  แต่ต้องบอกว่าสินค้าการเงินเพียงตัวเดียวคงไม่สามารถตอบโจทย์ หรือความต้องการได้ทุกด้าน   หลายคนต้องการผลประโยชน์ระยะสั้นที่จะได้รับตรงหน้ามากกว่าจะสนใจในผลประโยชน์ระยะยาว  จึงเลือกที่จะซื้อหรือใช้สินค้าอย่างผิดๆ เช่น คนส่วนใหญ่เลือกใช้สินค้า LTF มากกว่า RMF  ทั้งที่รู้ว่าวันหนึ่งเราก็ต้องเกษียณ  อีกทั้งนิสัยทางการเงินเป็นคนประเภท Conservative  แต่ก็ยังเลือกลงทุนใน LTF ซึ่งมีระดับความเสี่ยงที่ลงทุนในตราสารทุน (มีความเสี่ยงระดับ 6 จาก 8 ระดับ)   หรือ เมื่อไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายด้านประกัน จึงเลือกใช้สินค้าการเงินที่ไม่มีประกันจะดีกว่า เช่น ทุกปีเลือกที่จะซื้อ LTF เพียงอย่างเดียว เพราะ LTF ได้รับสิทธิ์ทางภาษี และไม่ต้องเสียค่าการประกันภัย  แต่ถ้าพิจารณาให้ดี “ปิรามิดการเงิน” ให้การประกันเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากกว่าการลงทุน  ไม่ใช่ว่าการลงทุนจะไม่ดี  แต่ก่อนจะไปสู่การลงทุนเราต้องสำรวจภัย และจัดการเรื่องการโอนย้ายความเสี่ยงให้เรียบร้อยเสียก่อน  นี้คือผลลัพธ์ของการเลือกใช้สินค้าอย่างผิดวัตถุประสงค์ในตัวมัน  

ตอบคำถามที่ 2    เมื่อพิจารณาให้ดี สินค้าการเงินหลายๆสินค้า จะมีประโยชน์มากกว่ามุมเพียง 1มุม เช่น ประโยชน์ของ LTF คือการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือตราสารทุน ในขณะเดียวกันก็จะได้รับสิทธิทางภาษี    ส่วนประกัน ประโยชน์ที่แท้จริง คือการประกันชีวิต และสุขภาพ โรคร้ายแรง รวมถึงการออมทรัพย์ พร้อมกับได้รับสิทธิทางภาษี  เช่นกัน   ดังนั้นเมื่อเราเลือกใช้สินค้าผิดชนิด ก็หมายความว่าเราจะไม่ได้รับประโยชน์ในมุมที่ถูกที่ควรของมัน  มีโอกาสอย่างมากที่จะทำให้ในวันหนึ่งข้างหน้า เราจะพบกับความผิดพลาดในการดำเนินชีวิต  แผนชีวิตที่เคยจินตนาการจะไม่เป็นไปตามฝัน  เช่นวันหนึ่งเราอาจจะต้องขายหน่วยลงทุน โดยต้องเอาทั้งเงินต้นและกำไรทั้งหมด ไปใช้จ่ายค่ารักษาโรคร้ายแรง เพียงเพราะกลัวเสียค่าเบี้ยประกัน    หรือจากการลงทุนแบบระยะสั้น เมื่อครบกำหนด ถึงแม้ว่าเราจะได้กำไร แต่ก็เอากำไรที่ได้ไปจับจ่ายใช้สอย จนถึงวันหนึ่งที่เกษียณ เรากลับมีเงินทุนเพื่อการเกษียณไม่เพียงพอ เป็นต้นครับ 

                  “ชีวิตที่จะประสบความสำเร็จ ต้องการคำปรึกษา ต้องการการวางแผน”  ติดต่อ FA ใกล้ตัวท่านได้เลยครับ

ขอบคุณ   คุณมงคล ลุสัมฤทธิ์ (พี่หมง)

อ้างอิง  http://fromwealthdesigner.blogspot.com/2016/02/ltf-rmf.html

THAIFA “รวมพลัง สร้างอนาคต”